นักวิชาการชี้เนื้อหาแท็บเล็ตไม่เหมาะป.1-4

ราชบัณฑิตแนะรัฐเตรียมความพร้อมให้ครู พ่อแม่ ผู้ปกครอง เนื้อหา ก่อนแจกแท็บเล็ต 9 แสนเครื่อง แนะไทยผลิตแทนนำเข้า ด้านหมอกุมารเวชชี้เด็กวัย 6-8 ขวบต้องเรียนของจริง เพื่อเสริมพัฒนาการ หวั่นเด็กไทยอ้วน เตี้ย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 20 ก.พ. 55 ดร.วรกร คำสิงห์นอก ผู้ช่วยเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวในการประธานเปิดสัมมนาวิชาการเรื่อง 'แท็บแล็ต 9 แสนเครื่อง เป็นเครื่องมือปฏิรูปการศึกษาได้จริงหรือ' ที่สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย จัดโดยชมรมผู้สื่อข่าวสายการศึกษา ร่วมกับสำนักพิมพ์แม็ค ใจความตอนหนึ่งว่า การแจกแท็บเล็ต 9 แสนเครื่องเป็นนโยบายของรัฐบาล ต้องการยกระดับการเรียนรู้ของเด็กไทยเพิ่มเติมจากตำราเรียน เตรียมความพร้อมให้กับเด็กและเยาวชนไทยก้าวเข้าสู่ประชาคมอาเซียน 2558

ดร.ครรชิต มาลัยวงศ์ ราชบัณฑิต นายกสมาคมครูเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย กล่าวว่า เพื่อให้เกิดประโยชน์กับการศึกษาของไทยชัดเจน ขอเสนอให้กระทรวงศึกษาธิการเป็นเจ้าภาพ และสถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สสวท.) ดูแลเนื้อหา การจัดซื้อ งบประมาณ การซื้อแท็บเล็ต เตรียมความพร้อมให้ครู สร้างเครือข่ายแท็บเล็ต ใช้ผู้เชี่ยวชาญต่างประเทศที่มีความเชี่ยวชาญมาอบรม หากซื้อถึง 9 แสนเครื่อง รัฐอาจจะร่วมทุนกับต่างประเทศผลิตเอง

รศ.พญ.นิตยา คชภักดี กุมารแพทย์ คณะแพทยศาสตร์ รพ.รามาธิบดี ม.มหิดล กล่าวว่า เด็กวัย 6-8 ขวบ ต้องเรียนรู้จากของจริง หากสัมผัสจอแท็บเล็ตตลอดเวลา เด็กจะสายตาสั้น สมองผิดปกติ คอเอียง เพราะนั่งนานติดต่อกันหลายชั่วโมง จะมีปัญหาการสื่อสารกับพ่อแม่ มีแนวโน้มจะเป็นโรคอ้วน-เตี้ย เด็กจะเสี่ยง เช่น โหลดภาพลามก เกมโหดได้ แนะนำว่าอายุ 3-4 ขวบ ควรเล่นไม่เกิน 1 ชั่วโมง จากนั้นให้ไปทำอย่างอื่น เช่น ออกกำลังกาย อ่านหนังสือ

นายวีรชน ผู้จัดการฝ่ายวิจัย บริษัท โคกิริ เล่าว่า เกาหลีได้นำแท็บเล็ตมาทดลองวิจัยใช้ในระดับอุดมศึกษาผ่านอีบุ๊ก ผลวิจัยปรากฏว่า นักศึกษาสนใจเล่นเกมเป็นอันดับหนึ่ง จึงไม่นำแท็บเล็ตมาใช้ในการศึกษา

อาจารย์วราภรณ์ ภาตั้งใจจริง รอง ผอ.ราชวินิตประถม กล่าวว่า ได้รับแจกแท็บเล็ตทั้งหมด 100 เครื่องทดลองใช้กับนักเรียนชั้นป.1 จำนวน 40 เครื่อง ป.4 จำนวน 40 เครื่อง ส่วน 20 เครื่องเก็บไว้กองกลาง ใน 1 วัน สอน 1 ชั่วโมง โดยสอน ภาษาไทย อังกฤษ สังคม คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ และมีอาจารย์ มศว. ทำวิจัย หมอวัดสายตา โครงการจะเสร็จสิ้นมีนาคม 2555 จากที่คลุกคลีเด็กพบว่า เนื้อหาที่โหลด 300 กว่าเรื่อง ไม่เหมาะกับพัฒนาการเด็ก น่าจะเหมาะกับ ม.ปลาย ที่ออกมาเปิดเผยต้องการให้สังคมรับรู้ข้อมูลความเป็นจริงครั้งนี้


จาก คม ชัด ลึก http://www.komchadluek.net/detail/20120220/123487/%E0%B8%99%E0%B8%B1%E0%B8%81%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%8A%E0%B8%B2%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%8A%E0%B8%B5%E0%B9%89%E0%B9%80%E0%B8%99%E0%B8%B7%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%AB%E0%B8%B2%E0%B9%81%E0%B8%97%E0%B9%87%E0%B8%9A%E0%B9%80%E0%B8%A5%E0%B9%87%E0%B8%95%E0%B9%84%E0%B8%A1%E0%B9%88%E0%B9%80%E0%B8%AB%E0%B8%A1%E0%B8%B2%E0%B8%B0%E0%B8%9B.14.html

Parent Education : Montessori Education and How it Prepares Your Child for the Future

Dear Friends

We would like to invite you for our Parent Education Event on Next Wednesday, the 29th of February, from 3:15- 4:15.

All parents and prospective parents are invited as we will talk about how a Montessori education helps to prepare children for the future. A variety of sources will be used to inspire a discussion about what we are hoping for ourstudents and children in the future and what we can do to help them achieve theirpotential, both at school and at home.

We hope you will join us for this event. You are welcome to bring friends. Please confirm your intention to attend so we can make arrangements.

Sincerely,

Administration.